มีด่านบอกด้วย

ubonmedan
ubonmedan

พบผู้ต้องสงสัยว่ามีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (๑) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ(๔)

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/A/027/4.PDF
อุบลราชธานี – ตำรวจจราจรแจ้งจับหนุ่มใช้มือถือถ่ายใบสั่งลงเฟซบุ๊ก “มีด่านบอกด้วย” เหตุอ้างจับแฟนสาวไม่เอาที่พักเท้าจักรยานยนต์ขึ้น ทั้งที่ความจริงไม่สวมหมวกนิรภัย เบื้องต้นแจ้งข้อหาหนักดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ขณะที่กลุ่มแฟนเพจเคลื่อนไหวตอบโต้ตำรวจที่มุ่งตั้งด่านจับมากกว่าป้องกันอาชญากรรม

วันนี้ (1 พ.ค.2556) พ.ต.ท.ก้องชนะ บุตรศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี รับแจ้งจาก ด.ต.สำเร็จ จำปาโพธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมือง ให้ดำเนินคดีต่อนายชลวิทย์ ศรีสว่าง อายุ 25 ปี ทำงานที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา จ.อุบลราชธานี ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเย็นวานนี้ (30 เม.ย.2556) นายชลวิทย์ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพใบสั่งที่ออกโดย ด.ต.สำเร็จ ซึ่งจับกุม น.ส.โย (นามสมมติ) แฟนสาวนายชลวิทย์ ข้อหา “ขับขี่จักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย” แต่นายชลวิทย์กลับระบุในเฟซบุ๊กว่า ความเป็นจริง ด.ต.สำเร็จจับกุมแฟนของตนฐาน “ไม่เอาที่พักเท้ารถจักรยานยนต์ขึ้น” แต่เลี่ยงออกใบสั่งข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้ ด.ต.สำเร็จถูกผู้บังคับบัญชาเรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง และทำให้คนที่อ่านข้อความเกลียดชัง ด.ต.สำเร็จ จึงเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีต่อนายชลวิทย์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตามจับกุมนายชลวิทย์ได้ที่ทำงานนำตัวมาสอบสวน ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความดังกล่าวจริง ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาทตำรวจแต่อย่างใด

แค่ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับแฟนสาว จึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพใบสั่ง และส่งข้อความไปยังเฟซบุ๊ก “มีด่านบอกด้วย” ซึ่งต่อมาเจ้าของเฟซบุ๊กได้ก๊อบปี้เผยแพร่ในแฟนเพจ จนมีผู้เข้ามาแสดงความเห็น โจมตีการทำงานของตำรวจจำนวนมาก ซึ่งนายชลวิทย์ยืนยันว่าเชื่อตามคำบอกเล่าของแฟนสาวว่าเป็นการออกใบสั่งโดยไม่เป็นธรรม จึงขอให้การปฏิเสธ ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนแจ้งขณะนี้

สำหรับความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก “มีด่านบอก” ด้วย ขณะนี้มีการลบข้อความโจมตีการทำงานของตำรวจจราจรออกจากหน้าเพจไปจำนวนหนึ่ง เนื่องจากทราบว่าตำรวจได้ปริ้นข้อความเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ตามจับกุมบรรดาแฟนเฟจที่เข้ามาโพสต์ข้อความ โจมตีพฤติกรรมการทำงานของตำรวจจราจร

ทั้งนี้ เพจมีด่านบอกด้วยอุบลราชธานี ได้เปิดหน้ารับแจ้งข่าวสารการตั้งด่านของตำรวจจราจร ตำรวจสายตรวจ และทำเป็นระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ รับแจ้งจุดตั้งด่านตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 ปัจจุบันมีแฟนเพจกว่า 94,000 คน เพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตั้งจุดตรวจจับมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. มากกว่าการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม ตามจุดประสงค์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000052187

Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์

I am Lecturer, Developer, Researcher, Columnist, Writer, Photographer, and Webmaster - L@mpang man

Leave a Reply